มือ เป็นอวัยวะของร่างกายส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เลย มือมีหน้าที่สำคัญในการหยิบจับสิ่งของ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ถ้าเกิดมือมีอาการลอกขึ้นมาก็คงเป็นเรื่องน่ากังวลใจอยู่ไม่น้อย ดังนั้นมือจึงต้องมีความชุ่มชื้น น่าสัมผัส ไม่แห้งกร้าน แต่ก็ยังมีสาว ๆ ที่ยังคงประสบกับปัญหามือลอก มือแห้งแตก ซึ่งปัญหานี้มันทำให้เราไม่สะดวกสบายในการหยิบจับ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน แล้วยังหมดความมั่นใจ ไม่กล้าที่จะจับมือหนุ่ม ๆ อีกด้วย
แต่ไม่ต้องกังวลใจไป บทความนี้เราจะมาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับอาการมือลอก ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มือลอก พร้อมกับวิธีรักษาอาการมือลอก แบบธรรมชาติ เพื่อมือจะได้กลับมานุ่มชุ่มชื้น อาการมือลอกหายไปอย่างแน่นอน

มือลอกคืออะไร
มือลอก (Skin peeling on hands) เป็นอาการที่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าที่บริเวณมือหลุดลอกออกมาเป็นขุย ๆ หรือเป็นแผ่น ๆ และผิวหนังส่วนที่ลอกมักมีอาการแห้งหยาบกร้าน ไม่นุ่มนวลจนทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายผิว เกิดการระคายเคือง คัน หรืออาจรู้สึกเจ็บที่ผิว
มือแห้ง ลอกสาเหตุเกิดจากอะไร
สาเหตุของอาการมือลอกอาจเกิดได้จากสาเหตุปัจจัยต่าง ๆ มากมาย ดังนี้
- สภาพอากาศ ลม แสงแดด และอุณหภูมิล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้มือเกิดการลอกได้ โดยคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศแห้งจะมีโอกาสมือแห้งและลอกเป็นขุยได้มากกว่าพื้นที่ที่มีอากาศชื้น รวมถึงการอยู่กลางแสงแดดจัดเป็นเวลานานอาจทำให้ผิวบริเวณหลังมือแดง มีอาการแสบร้อนผิว และผิวบริเวณนั้นก็จะลอกเป็นขุยหลังจากถูกแสงแดดจัดเป็นเวลา 2–3 วัน
- การล้างมือบ่อย การล้างมือถือเป็นการรักษาสุขอนามัยที่ดีเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่อาจเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อเกิดการระบาดของโรคติดต่ออย่างโรคโควิด-19 แต่การล้างมือที่บ่อยเกินไป การใช้น้ำที่ร้อนเกินไปล้างมือ หรือใช้สบู่ที่มีสารเคมีรุนแรงต่อผิวหนังในการล้างมือ รวมไปถึงการไม่ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นหลังการล้างมือ สาเหตุเหล่านี้อาจทำให้มือลอกได้
- การสัมผัสสารเคมี พวกน้ำหอม สีสังเคราะห์ สารฆ่าเชื้อ และสารกันเสียที่ผสมในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิด เช่น แชมพู สบู่ โลชั่น มอยส์เจอไรเซอร์ รวมไปถึงน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า น้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มือเกิดอาการลอกได้
- ทำอาชีพที่สัมผัสสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงต่อผิว อาการมือลอกอาจเกิดขึ้นกับคนที่ประกอบอาชีพที่จำเป็นต้องสัมผัสสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงต่อผิวเป็นประจำ เช่น พนักงานทำความสะอาด และพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งอาจเกิดอาการมือลอกหลังสัมผัสสารเคมีที่ผสมในสารทำความสะอาด สารทำละลาย และสารที่ผสมในกาวต่าง ๆ ได้

มือลอกสามารถบ่งบอกว่าเป็นโรคอะไร
มือลอกเองก็อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณสุขภาพ เป็นหนึ่งในอาการของโรคบางชนิด ดังนี้
- ผิวหนังที่มืออักเสบ (Hand Eczema) เกิดขึ้นได้จากการที่มือสัมผัสโดนสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นสารฆ่าเชื้อจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สารเคมีที่พบเจอได้ในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่เครื่องสำอางเอง ก็อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหรือเกิดการแพ้สารเคมีได้ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการมือลอก นิ้วมือลอก และอาจทำให้เกิดอาการคัน มีผื่นแดง และผิวหนังอักเสบแสบร้อนได้อีกด้วย
- ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) เกิดจากผิวหนังที่ไวต่อสภาพแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ เชื้อโรค และสารเคมีที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ ทำให้เกิดอาการคัน มีตุ่มแดงนูน และตุ่มน้ำใส ซึ่งเมื่อแตกออกจะกลายเป็นสะเก็ดแข็ง หากเป็นเรื้อรังจะทำให้ผิวเป็นแผ่นหนาและลอกเป็นขุย ๆ ได้
- ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำ (Dyshidrotic Eczema) เป็นอาการทางผิวหนังที่มีความรุนแรงมากกว่าการอักเสบที่ผิวหนังทั่วไป ซึ่งอาจทำให้เกิดเป็นแผลพุพองขึ้นบนผิวหนัง รวมถึงมีอาการระคายเคือง เช่น มีอาการคัน ฝ่ามือแดง และมือลอกได้
- อาการทางผิวหนังที่เกิดบริเวณมือและเท้า (Acral Peeling Skin Syndrome) โรคที่อาจส่งผลให้ผิวหนังชั้นบนสุด หรือชั้นหนังกำพร้าบริเวณมือและเท้าลอก แต่อาจไม่มีอาการเจ็บปวดอื่น ๆร่วม ซึ่งสามารถพบโรคนี้ได้บ่อยในเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก
- โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำให้เซลล์ผิวแบ่งตัวเร็วขึ้น จะมีอาการผื่นแดง ผิวหนังแห้งแตก และมีอาการมือลอก หากมีอาการที่บ่งบอกถึงการเป็นโรคสะเก็ดเงิน ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาในทันที เพื่อการรักษาตามแนวทางที่ถูกต้อง
- โรคผิวหนังผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis) เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการที่ผิวหนังมีการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ที่ทำให้เกิดการระคายเคือง การอักเสบและการแพ้ เช่น การแพ้แหวนที่ทำจากวัสดุเงิน เมื่อสวมใส่อาจทำให้เกิดอาการผื่นแดง มือลอก มีอาการคัน แสบร้อน และผิวหนังตกสะเก็ดได้
- โรคคาวาซากิ (Kawasaki’s Disease) เป็นโรคที่สามารถพบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยอาการของโรคนี้ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง มือเท้าเกิดอาการบวม คัน มือเท้าลอก มีผื่นขึ้น ช่องปากและลำคอเกิดการอักเสบ
ขาดวิตามินทำให้มือลอกได้จริงหรือไม่
อีกสาเหตุที่เป็นตัวการทำให้เกิดอาการมือลอกจะมาจากการที่ร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด ดังนี้
- วิตามินบีสาม เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนประกอบสำคัญในการช่วยบำรุงดูแลผิวหนัง การขาดวิตามินบี 3 จึงส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ปวดท้อง เบื่ออาหาร และที่สำคัญคือ ผิวแห้งจนหลุดลอกเป็นขุย
- วิตามินซี เป็นสารวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และเสริมสร้างเซลล์ผิวของร่างกายให้เพียงพอ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเกือบทุกชนิดจึงมักมีวิตามินซีรวมอยู่ด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หากขาดวิตามินซี แล้วมือรวมถึงผิวหนังส่วนอื่น ๆ ผิวจะไม่แข็งแรง และมีอาการหลุดลอกออกมา
- วิตามินอี เป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิว หากร่างกายขาดวิตามินตัวนี้ ก็อาจทำให้ผิวเกิดอาการแห้ง และแตกจนลอกเป็นขุยได้
วิธีรักษามือลอก แบบธรรมชาติ ให้มือกลับมานุ่มชุ่มชื้น
วิธีรักษาอาการมือลอก แบบธรรมชาติ ที่เราจะนำมาแชร์ให้สาว ๆ ที่กำลังประสบปัญหานี้ ได้นำไปลองทำตามกันดู ซึ่งจะเป็นการรักษาแบบง่าย ๆ สามารถทำเองได้ทุกวัน เพื่อรักษามือที่ลอกให้กลับมานุ่มชุ่มชื้นได้อีกครั้ง จะมีวิธีไหนบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ

1. ล้างมือด้วยสบู่เหลว
การใช้สบู่เหลวจะช่วยลดความแห้งตึงของผิวหนังหลังล้างมือได้ดี เนื่องจากสบู่ก้อนมีค่า pH ที่เป็นด่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เหมาะกับสภาพผิว จึงควรเลือกสบู่เหลวที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก, กลีเซอรีน, เซราไมด์ และลาโนลิน หรือจะเลือกสบู่เหลวที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติก็ได้เช่นกัน เช่น โจโจบาออยล์, น้ำมันมะกอก หรือเชียบัตเตอร์ เป็นต้น

2. เช็ดมือให้แห้ง
เมื่อทำความสะอาดด้วยสบู่เหลวจนครบ 20 วินาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้ว ควรซับฝ่ามือให้แห้งด้วยผ้าขนหนูหรือกระดาษทิชชู่เบา ๆ ไม่ควรถูหรือเช็ดแรงเพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และไม่ควรใช้เครื่องเป่าลมร้อนให้มือแห้ง เพราะจะทำให้ผิวหนังเสียความชุ่มชื้นอีกนั่นเอง

3. ใช้แฮนด์ครีมเป็นประจำ
หลังจากล้างมือและเช็ดให้แห้งแล้ว ควรทาแฮนด์ครีมตามทันที เพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนของผิวเปิดรับครีมมากที่สุด ทั้งยังช่วยให้ฝ่ามือรักษาความชุ่มชื้นได้ทันที โดยผลิตภัณฑ์ที่ควรเลือกใช้มีหลากหลายรูปแบบ หากฝ่ามือมีความแห้งมากจนมีอาการลอก ควรใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อขี้ผึ้ง หรือปิโตรเลียมเจลลี่ เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้มากที่สุด รองลงมาคือผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีม ส่วนเนื้อโลชั่นนั้นจะมีส่วนผสมของน้ำอยู่มาก ทำให้ความชุ่มชื้นระเหยออกได้เร็วกว่าเนื้ออื่น ๆ นั่นเอง จึงเหมาะสำหรับทาระหว่างวันและผู้ที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ

4. น้ำมันมะพร้าว
การใช้น้ำมันมะพร้าวทาผิว หรือสามารถใช้ทามือ เวลาที่มือลอกได้อย่างดีอีกด้วย โดยสามารถทาได้ทั้ง เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ซึ่งในขณะที่ทา คุณอาจจะนวดมือไปด้วยก็ได้ เพื่อให้น้ำมันมะพร้าวได้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ ทาเป็นประจำทุกวันอาการมือลอกก็จะหายไปแล้วค่ะ

5. ใบสะเดา
ใบสะเดาก็สามารถช่วยรักษาอาการมือลอกได้นะ โดยนำใบสะเดามา 15 – 20 ใบ แล้วต้มในน้ำสะอาด 1 ลิตร ต้มไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 นาที แล้วจึงยกลง รอให้ความร้อนลดลงพออุ่น ๆ ก็เอามือที่ลอกจุ่มลงไปได้เลย แช่มือทิ้งไว้อย่างนั้นประมาณ 5 นาทีค่อยยกออก แนะนำให้ทำเพียงวันละครั้ง เพียงไม่เกิน 1 สัปดาห์ อาการมือลอกก็จะหายไปอย่างแน่นอน

6. เบบี้ออยล์กับน้ำอุ่น
เมื่อผิวเกิดความแห้งกร้านจนลอก จึงต้องบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและกำจัดเซลล์ผิวหนังเก่าที่ตายออกไป โดยนำเบบี้ออยล์หยดลงในน้ำอุ่นประมาณ 2-3 หยด จากนั้นเอามือลงไปแช่ทิ้งไว้ 3 นาที แล้วเอาแปรงนุ่ม ๆ มาขัดเบา ๆ ให้หนังที่แห้งหลุดออก จากนั้นเช็ดมือให้แห้งแล้วทาบำรุงด้วยโลชั่น แนะนำให้ทำวิธีนี้เป็นประจำทุกวัน เพียงไม่กี่วันอาการมือลอกก็จะดีขึ้น และหายเป็นปกติ

7. ใบผักหวาน
วิธีนี้เป็นที่นิยมใช้รักษาอาการมือลอกในภาคเหนือ โดยนำใบผักหวานสด ๆ มาขยี้ให้ละเอียด จากนั้นนำมาทาให้ทั่วฝ่ามือที่ลอก พอกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด แนะนำให้ทำเป็นประจำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ภายใน 5 วันอาการมือลอกก็จะดีขึ้นแล้วค่ะ

8. ทานวิตามินเสริม
มือลอกเป็นขุยเนื่องจากการขาดวิตามินที่เราได้บอกไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งวิตามินเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ผิว เล็บ และเส้นผมของเรามีความแข็งแรง สุขภาพดีนั่นเอง ซึ่งอาหารที่จะสามารถช่วยรักษาอาการมือลอกได้ เช่น ปลาทูน่า เห็ด ฟักทอง ถั่วลิสง และอะโวคาโด ฯลฯ

9. ขัดหนังกำพร้าออก
ในขณะที่กำลังอาบน้ำให้ใช้ใยบวบ หรือฟองน้ำขัดตัว นำมาขัดถูให้หนังกำพร้าที่ลอกออกมานั้นหลุดออกไป เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วก็ให้หาน้ำมันมะกอก วาสลีน หรือมอยเจอร์ไรเซอร์มาทามือให้ทั่ว จะช่วยให้มือที่ลอกหายไวขึ้น
การป้องกันอาการมือลอก
การป้องกันอาการมือลอก เพื่อลดโอกาสเกิดอาการมือลอก รวมถึงผิวหนังลอกที่อวัยวะส่วนอื่น ๆ ด้วย ควรปฏิบัติดังนี้
- ไม่ควรล้างมือบ่อย ๆ หรือล้างติดต่อกันเกิน 2-3 ครั้งต่อวัน ยกเว้นแต่เมื่อมีการสัมผัสสิ่งสกปรกอย่างต่อเนื่องทั้งวัน และไม่ควรล้างมือด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นให้มือเกิดอาการลอกได้ เพราะผิวมีการสูญเสียความชุ่มชื้นไป
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เนื่องจากอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการมือลอก หรือทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคืองทุกชนิด
- ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพวกครีมบำรุง หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังอาบน้ำ และหลังล้างมือเป็นประจำ
- ควรทาครีมกันแดดบริเวณผิวหนังที่อยู่นอกร่มผ้า ซึ่งครีมกันแดดต้องให้ค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกครั้งที่ต้องออกนอกบ้าน และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งหรือในที่แดดจัดเป็นเวลานาน
- ไม่ควรแกะ หรือเกาในบริเวณที่มีอาการมือลอก เนื่องจากการเกาอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ผลิตภัณฑ์ล้างจาน และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เป็นสูตรเฉพาะสำหรับผิวแพ้ง่าย หรือสารสกัดมาจากธรรมชาติ เพื่อป้องกันอาการแพ้สารเคมีในชีวิตประจำวัน ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการมือลอกได้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยต้องรับประทานให้สารอาหาร และวิตามินได้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดวิตามินจนส่งผลให้เกิดอาการมือลอก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพอากาศที่แห้งจัด และมีอุณหภูมิร้อนจัด หรือมีอุณหภูมิหนาวจัด เพื่อไม่ให้ผิวหนังเกิดการสูญเสียความชื้น จนส่งผลให้ผิวหนังมีอาการแห้ง ลอก
- หากทำตามวิธีรักษาเบื้องต้นและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อป้องกันการเกิดอาการมือลอกแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์

Q&A เกี่ยวกับวิธีรักษามือลอก
Q : มือลอกใช้อะไรทาแล้วหาย ?
A : ยาที่ใช้รักษาอาการมือลอกจะเป็นยากลุ่มสเตียรอยด์แบบทา แต่อย่างไรก็ตาม โรคนี้ค่อนข้างรักษาหายได้ยาก จะเน้นเป็นวิธีการควบคุมมากกว่า โดยถ้ารู้ว่าแพ้สารอะไร ก็ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสทันที เพราะมันเกิดจากการที่เราโดนสารเคมีชนิดนั้นซ้ำ ๆ บ่อย ๆ เช่น พวกน้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาล้างจาน ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงไม่สัมผัสไปก่อนจะดีที่สุด ในกรณีที่บางคนไม่สามารถหลีกเลี่ยง เพราะต้องทำงาน ก็แนะนำว่าให้ใส่ถุงมือ โดยถุงมือที่แนะนำก็คือ ถุงมือพลาสติกหรือถุงมือไวนีลจะดีกว่า เพราะถ้าเป็นถุงมือที่ทำจากยาง จะมีโอกาสก่อให้เกิดอาการแพ้ได้มากกว่า
Q : มือลอกหายเองได้ไหม ?
A : อาการมือลอกมักจะดีขึ้นหลังจากการดูแล และบำรุงผิวด้วยตัวเองตามวิธีรักษาเบื้องต้น แต่กรณีที่เกิดจากโรคหรือความผิดปกติในร่างกายอาจต้องใช้ยาในการรักษา โดยไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้รักษาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

สรุป การรักษาอาการมือลอก แบบธรรมชาติ ให้มือกลับมานุ่มชุ่มชื้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการมือลอก มือแห้งแตก รวมถึงวิธีรักษา และการป้องกันอาการมือลอกที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ซึ่งมือ ก็ถือว่าเป็นอวัยวะสำคัญที่จะต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษไม่ต่างจากอวัยวะส่วนอื่น ๆ เลยนะคะ เพราะมือก็เหมือนเป็นเครื่องมือที่เราใช้ทำสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันมากมาย แต่ถ้าเกิดมือลอก แล้วไม่รีบรักษา ดูแลจนทำให้เกิดการติดเชื้อก็จะยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นไปอีก หากเกิดปัญหามือลอกขึ้น ควรรีบรักษาให้หาย แต่ถ้ารักษาด้วยตนเองแล้วไม่หาย ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ เพื่อที่จะได้ทำการตรวจวินิจฉัย และทำการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
Sherrell Z. (2021, August 25). What can cause the skin on the hands to peel?. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/peeling-hands#pictures
Sengar C. (2021, June 17). How to get rid of hand skin peeling? here are 5 home remedies. Only My Health. https://www.onlymyhealth.com/home-remedy-to-get-rid-of-hand-skin-peeling-1490175788
Frothingham S. (2019, June 20). What causes skin peeling on hands?. Healthline. https://www.healthline.com/health/skin-peeling-on-hands#environmental-causes
ที่มาของรูป
veggiepedia.greenery.org