อวัยวะไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนในร่างกายล้วนต้องได้รับการดูแล ถ้าพูดถึง เล็บ บางคนก็อาจจะดูแลเพียงแค่การตัดให้สั้นเท่านั้น โดยอาจจะไม่ทราบถึงวิธีการดูแลเล็บว่ามีมากกว่าการทำความสะอาด โดยการตัด หรือไม่ได้ใส่ใจว่าเล็บก็มีวิธีดูแลให้ขาวใส ดูสะอาด แข็งแรงและสุขภาพดีด้วยเช่นกัน วันนี้เราจึงอยากมาแชร์วิธีดูแลเล็บยังไง ให้ขาวใส ดูสะอาด แข็งแรง และสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมบอกข้อควรระวังในเรื่องการดูแลเล็บ ให้คงความสดใส แข็งแรง และมีสุขภาพเล็บที่ดีตลอดไป แต่ก่อนจะไปรู้วิธีดูแลเล็บ เราควรรู้ก่อนว่าเล็บ มีหน้าที่ทำอะไรให้กับร่างกายเรา มาดูกันเลย
เล็บ ทำหน้าที่อะไร?
เล็บ (Nail) คือ อวัยวะปกคลุมร่างกายชนิดหนึ่งที่พบบริเวณปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า เล็บ ประกอบไปด้วยโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เคราติน (Keratin) ซึ่งเป็นเคราตินชนิดแข็ง โดยทั่วไปเล็บของคนเรายาวขึ้นสัปดาห์ละ 1 มิลลิเมตร และกว่าเล็บใหม่จะงอกออกมาแทนที่เล็บเก่าท้ังหมด ใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน
หน้าที่ของเล็บ
1. ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อนิ้วส่วนปลาย
2. รับความรู้สึก และไว้ฉีกอาหารหรือสิ่งของให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ
3. ทําให้นิ้วมือสามารถหยิบจับสิ่งของเล็ก ๆ ได้ สะดวก เป็นอาวุธของร่างกายอย่างหนึ่งตามธรรมชาติ ในการขีด, ข่วน เพื่อต่อสู้กับอันตราย
4. เล็บนิ้วเท้าช่วยในการเคลื่อนไหวของเท้า ได้ดียิ่งขึ้น
5. เป็นแหล่งบ่งบอกถึงภาวะความเจ็บป่วย ของโรคบางชนิด
6. เพื่อความสวยงาม บ่งบอกลักษณะสุขภาพ รสนิยม บุคลิก ของผู้ที่เป็นเจ้าของเล็บ
ปัญหาที่เกิดกับเล็บ
การดูแลสุขภาพเล็บให้แข็งแรง และสุขภาพดีจะไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าหากเรารู้ว่าอะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เล็บของเรามีปัญหา เพื่อจะได้สังเกตุและหาวิธีดูแลรักษาเล็บต่อไปค่ะ ซึ่งปัญหาของเล็บ จะมีสาเหตุ ดังต่อไปนี้ค่ะ
- การขาดโปรตีน เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ ในเรื่องการดูแลเล็บ โปรตีนยังสามารถช่วยให้เล็บมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะช่วยสร้างเคราติน ซึ่งเป็นสารบำรุงสำคัญของเล็บ โดยการเสริมสร้างโปรตีนในร่างกายนั้น เราควรที่จะรับประทานอาหาร จำพวกปลา ไก่ ไข่ เนื้อวัว และถั่วเป็นหลัก รวมไปถึงการทานนมพร่องมันเนย นมไขมันต่ำ เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีน ก็จะช่วยให้สุขภาพเล็บของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วยค่ะ
- ขาดน้ำในร่างกาย สังเกตตัวเองว่ารับประทานน้ำต่อวันน้อยเกินไปหรือเปล่า เนื่องจากการขาดน้ำในร่างกายเป็นสาเหตุที่ทำให้เล็บขาดความชุ่มชื้นจนเกิดปัญหาเล็บเปราะ และหักง่ายนั่นเอง ดังนั้นการรับประทานน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกายของเรากันค่ะ
- การขาดวิตามิน ปัญหาเล็บบอบบาง อ่อนแอ และหักง่ายนั้น เป็นเพราะว่าร่างกายของคุณกำลังขาดไบโอตินอยู่หรือเปล่า เพราะไบโอตินหรือวิตามินบี 7 นั้นนำไปสู่ปัญหาเล็บอ่อนแอ บอบบาง และหักง่ายในที่สุด ดังนั้นเพื่อเติมไบโอตินให้ร่างกาย เราจึงควรรับประทานอาหารจำพวก ไข่ ถั่ว ธัญพืช กล้วย และเห็ด เพื่อช่วยให้เล็บของเราแข็งแรงขึ้นนั่นเองค่ะ
- ขาดการบำรุงที่ดี สำหรับสาว ๆ สิ่งสำคัญสำหรับการดูแลเล็บ คือต้องมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถบำรุงเล็บและมือให้รู้สึกชุ่มชื้น และมีเล็บที่สุขภาพดี แข็งแรงอยู่เสมอ เนื่องจากในแต่ละวันมือและเล็บของเราต้องใช้หยิบจับสิ่งของมากมาย ต้องเผชิญกับมลภาวะ และใช้ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ฉะนั้นเราจึงควรพกแฮนด์ครีมเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อดูแลเล็บให้สุขภาพดี แข็งแรง และผิวที่มือชุ่มชื้นอยู่เสมอ
12 วิธีดูแลเล็บให้ขาวใส ดูสะอาด แข็งแรงและสุขภาพดี
การดูแลเล็บให้ขาวใส ดูสะอาด มีสุขภาพดีอยู่เสมอนั้น มันสามารถบ่งบอกถึงการดูแลร่างกายตัวเองที่ดีไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็ตามในร่างกายของเราเอง หากเราคิดสภาพว่าเล็บของเรา เหลือง เปราะหักง่าย หรือรูปทรงบิดเบี้ยวไม่สวยงาม ก็คงเป็นอะไรที่ไม่น่าดูนัก ฉะนั้นจึงควรเริ่มต้นดูแลเล็บของตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพเล็บที่ดีของเรากันค่ะ ส่วนจะมีวิธีอะไร ทำยังไงบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ
วิธีที่ 1 ไม่ควรล้างมือบ่อยเกินไป
การล้างมือ จะสังเกตเห็นว่าเวลาเราล้างมือบ่อย ๆ มือและเล็บของเราจะสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้งกร้าน ซึ่งเกิดการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนัง โดยน้ำที่ใช้ล้างมือเองก็มีผลทำให้ผิวแห้งโดยการชะล้างน้ำมันธรรมชาติของผิวหนังออกไปเช่นกัน รวมถึงการใช้พวกสบู่ น้ำยาล้างมือ และน้ำยาล้างจาน ที่มีสารทำความสะอาดทำให้ผิวแห้ง ดังนั้น ควรล้างมือแต่พอดี หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้ทาแฮนด์ครีมเพื่อให้ผิวและเล็บชุ่มชื้นทุกครั้งหลังล้างมือ
วิธีที่ 2 เติมสารอาหารบำรุงเล็บ
ในปัจจุบันมีอาหารเสริม ที่ช่วยในการบำรุงเล็บให้แข็งแรง โดยเฉพาะไบโอติน (Biotin), สังกะสี (Zinc), วิตามินบี 3 และบี 12 ซึ่งวิตามินที่กล่าวมานี้สามารถบำรุงเล็บ และเส้นผมให้มีสุขภาพที่แข็งแรงได้ ลดปัญหาเล็บขาด เล็บฉีกที่เคยกวนใจ แล้วกลับมาแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกครั้งได้ค่ะ
วิธีที่ 3 สครับผิวเพื่อบำรุงเล็บ
การสครับผิวหน้าเล็บนั้นทำได้หลายวิธีเลยค่ะ อาทิเช่น ใช้แปรงขนนุ่มขัดหน้าเล็บของเราเบา ๆ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก และเซลล์ที่ตายแล้วให้ออกไปจากเล็บของเรา รวมถึงกำจัดแบคทีเรียที่ติดอยู่ตามซอกเล็บของเราให้ออกไปได้อย่างหมดจดนอกจากนี้คุณยังสามารถ ทำสครับด้วยตนเองด้วยการ นำน้ำตาลและน้ำมันมะกอกอย่างละ 1 ส่วนมาขัดทั้งมือ และเล็บเพื่อให้มือของเรานุ่ม ชุ่มชื้น รวมถึงช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดด้วยค่ะ
วิธีที่ 4 ก่อนทาสีเล็บใช้ออยล์บำรุงเล็บการเสมอ
สำหรับสาว ๆ ที่รักในการทาสีเล็บ ควรใช้ออยล์เคลือบหน้าเล็บ หรือผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงเล็บก่อนทาสีเล็บเสมอ เนื่องจากการใช้ออยล์ หรือผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บจะช่วยป้องกันไม่ให้สีทาเล็บสัมผัสผิวเล็บโดยตรง และป้องกันไม่ให้น้ำยาทาสีเล็บที่เป็นสารเคมีจะนำความชุ่มชื้นออกไปจากผิวเล็บ จนทำให้เล็บฉีกขาด หรือเปราะหักง่ายนั่นเองค่ะ
วิธีที่ 5 นวดมือเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
เราจะเห็นได้จากร้านสปามือชั้นนำส่วนใหญ่ ที่หลังจากการทาสีเล็บ หรือเพ้นท์เล็บเจล จะมีการนวดนิ้วมือร่วมกับการใช้ออยล์บำรุงเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดอยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อให้เลือดในร่างกายสามารถไปเลี้ยงมือและเล็บได้อย่างทั่วถึง รับรองว่าเล็บของคุณจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่นอนค่ะ
วิธีที่ 6 ใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงเล็บ และจมูกเล็บโดยเฉพาะ
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการบำรุงเล็บ และจมูกเล็บของคุณมากมาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถทำให้เล็บของคุณมีสุขภาพดี และแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะในตัวผลิตภัณฑ์จะช่วยลดการฉีกขาด เปราะบางง่าย รวมถึงสามารถลดปัญหาเล็บเหลือง ช่วยให้เล็บขาวใส สุขภาพดี และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
วิธีที่ 7 ทำให้เล็บมีความชุ่มชื้น
เล็บควรได้รับการบำรุงจากมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นอยู่เสมอเช่นเดียวกัน โดยช่วงหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดกับการลงมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงเล็บด้วยโลชั่นทาผิว หลังจากทาผิวทั่วร่างกายเสร็จแล้วก็อย่าลืมทาบำรุงเล็บเท้าให้ชุ่มชื้นกันด้วยนะคะ หรือใครจะใช้แฮนด์ครีมโดยเฉพาะก็ได้ไม่ว่ากัน
วิธีที่ 8 ตัดเล็บให้ถูกวิธี
หากรู้สึกเจ็บบริเวณข้างเล็บอยู่บ่อย ๆ นั่นอาจเป็นเพราะคุณตัดเล็บสั้นจนเกินไป ฉะนั้นลองเปลี่ยนวิธีตัดใหม่ด้วยการตัดปลายเล็บในลักษณะตรง หรือตัดโค้งตามรูปเล็บ เพื่อคงความแข็งแรงของเล็บในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ส่วนเล็บเท้าควรตัดปลายเล็บในลักษณะตรงเท่านั้น และไม่ต้องตัดตรงมุมให้ลึกลงไป เพื่อลดการเกิดปัญหาเล็บขบ นอกจากนั้นทำให้ทรงเล็บของสาว ๆ ดูสวยอีกด้วย
วิธีที่ 9 เช็กความผิดปกติของเล็บอยู่เสมอ
หากเล็บของคุณเกิดอาการผิดปกติ อาจจะมีสีแปลกไปหรือมีรอยต่าง ๆ เกิดขึ้นบนเล็บ หรือเล็บมีรูปทรงที่เปลี่ยนไป ก็อย่าชะล่าใจคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเล็บผิดปกติสามารถบอกได้ว่าร่างกายเราผิดปกติ ซึ่งโรคบางโรคก็จะบ่งบอกอาการทางเล็บได้ ทางที่ดีหากรู้สึกว่าเล็บมีความผิดปกติแล้ว ให้คุณรีบไปปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด
วิธีที่ 10 ทางลัดด้วยสปาเล็บ
การเข้าร้านทำสปาเล็บก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่สามารถช่วยให้เล็บสุขภาพดีได้ โดยให้ช่างทำเล็บหรือผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลอีกทีก็จะช่วยให้ง่ายขึ้น ถึงแม้จะเสียทรัพย์หน่อยแต่เล็บก็จะได้รับการดูแลแบบมืออาชีพ ซึ่งสมัยนี้ร้านทำเล็บมีบริการสปาบำรุงเล็บเยอะแยะมากมายให้เราได้เลือกใช้บริการกันค่ะ
วิธีที่ 11 พักหน้าเล็บบ้าง
สำหรับคนที่รักความสวยงาม ก็คงจะชื่นชอบการทำเล็บเจลเป็นปกติ เพราะการทำเล็บเจลสามารถช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับเล็บได้มากทีเดียว แต่ในเรื่องการดูแลเล็บ แนะนำว่าให้มีการพักหน้าเล็บบ้าง หลังเล็บเจลยาวอย่างน้อย 1 เดือน เพราะหากทำต่ออย่างสม่ำเสมอ เล็บจะยิ่งบางและเปราะหักง่ายค่ะ
วิธีที่ 12 เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเล็บ
นอกจากการดื่มน้ำบ่อย ๆ แล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเล็บก็ช่วยบำรุงหน้าเล็บให้แข็งแรง ลดการเปราะขาดได้เช่นเดียวกัน โดยเน้นสารอาหารประเภท วิตามินบี ธาตุเหล็ก สังกะสี โปรตีน ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้อง ผักใบเขียว ไข่แดง อาหารทะเล หรือจะเป็นการเลือกรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่มีสารอาหารในการช่วยบำรุงเล็บก็ได้เช่นกัน
ข้อควรระวังในการดูแลเล็บ
นอกจากจะรู้วิธีดูแลเล็บแล้ว ก็ควรรู้ข้อควรระวังในการดูแลเล็บด้วย ว่าควรหลีกเลี่ยง และไม่ทำให้เล็บเสีย หัก เปราะขาดง่ายอย่างไร เพื่อให้เล็บขาวใส สะอาด และดูสุขภาพดี
- หลีกเลี่ยงการกัดเล็บ ที่อาจทำให้ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ ถูกทำลาย เชื้อโรคจึงสามารถเข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายขึ้น และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้สูงขึ้น นอกจากนี้ ถ้ามือของเราสกปรก เชื้อโรคที่อยู่ในเล็บอาจเข้าสู่ช่องปาก และทำให้ร่างกายได้รับเชื้อโรคด้วยเช่นกัน
- หลีกเลี่ยงการตัดหนังบริเวณโคนเล็บ เนื่องจากจะทำให้เกิดช่องเปิดระหว่างเล็บและโคนเล็บ ที่ทำให้เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ผิวหนังและเกิดการติดเชื้อได้ หรือเกิดความผิดปกติของเล็บ เช่น เล็บเป็นคลื่น (Nail Ridges) และเกิดจุดขาวบนเล็บได้ ซึ่งจะทำให้เล็บสวย และไม่แข็งแรง
- เล็บฉีก หากมีเล็บฉีก ไม่ควรกัดเล็บหรือดึงเล็บให้ขาด เพราะอาจทำให้เกิดแผลได้ ควรใช้กรรไกรตัดเล็บที่สะอาดตัดเล็มบริเวณที่ฉีกออก
- ไม่ใช้เล็บแงะหรือแกะสิ่งของ อย่างการเปิดฝากระป๋องน้ำอัดลม เพราะอาจทำให้เล็บหักได้
- สวมถุงมือ ควรสวมถุงมือทุกครั้งเพื่อป้องกันเล็บและมือขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เมื่อทำงานบ้านหรือทำสวน
- สวมรองเท้าที่พอดี และเหมาะสมกับรูปเท้า ไม่คับหรือบีบหน้าเท้าจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงการโดนแอลกอฮอล์หรือสารเคมี นอกจากวิธีทำลายหน้าเล็บด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การทาสีหรือการกัดเล็บแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ส่งผลให้หน้าเล็บพังและเปราะขาดได้ง่าย นั่นคือการที่มือสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง อาจใช้วิธีป้องกันหน้าเล็บจากสารเคมี โดยการใส่ถุงมือ รวมถึงควรล้างมือด้วยน้ำสบู่และซับมือให้แห้ง พร้อมบำรุงมือและเล็บให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ
สรุป การดูแลเล็บให้ขาวใส ดูสะอาด และสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
สาว ๆ คนไหนที่รู้สึกว่าช่วงนี้เล็บดูเปราะบาง ฉีกขาดง่าย หรือไม่ขาวใส อย่าลืมนำวิธีดูแลเล็บทั้ง 12 วิธีนี้ ไปลองทำตามดูนะคะ และอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงในการทำร้ายเล็บของเราก็ไม่ควรทำด้วยเช่นกันนะคะ เพราะเราอยากเห็นเล็บของสาว ๆ ทุกคนมีสุขภาพที่ดี เพราะถ้าสุขภาพเล็บดี ก็อาจจะบ่งบอกถึงสุขภาพกายที่แข็งแรงด้วยนะคะสาว ๆ ดังนั้นอย่าลืมหมั่นดูแลเล็บกันนะคะ
เอกสารอ้างอิง
Herndon J. (2023, March 21). 12 Tips for Stronger Nails. Healthline. https://www.healthline.com/health/how-to-strengthen-nails
Mayo Clinic Staff. (2022, January 22). Fingernails: Do’s and don’ts for healthy nails. Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/in-depth/nails/art-20044954
Brady K. (2022, October 21). How to Grow Stronger, Healthier Nails, According to Dermatologists. Prevention. https://www.prevention.com/health/a20516850/14-secrets-to-strengthen-brittle-nails/