กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก คำพูดนี้ถ้าใครมีปัญหากลิ่นปากก็คงเข้าใจว่านอกจากจะทำให้เสียความมั่นใจในการสนทนากับคนรอบข้างแล้ว ยังทำลายสุขภาพที่ดีของช่องปากอีกด้วย ดังนั้น การจะแก้ปัญหากลิ่นปากที่เหม็น และไม่พึงประสงค์ คือต้องรู้ว่าปัญหากลิ่นปากคืออะไร มีสาเหตุเกิดจากอะไร และจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ โดยวิธีไหน บทความนี้เราได้รวบรวมทั้งหมดนี้มาให้แล้ว อยากรู้แล้วก็ตามมาดูได้เลยค่ะ

ปัญหากลิ่นปากคืออะไร
กลิ่นปาก หรือ ลมหายใจเหม็น (Bad breath, Halitosis) หมายถึง กลิ่นเหม็นที่ออกมาจากลมหายใจที่สามารถได้กลิ่น ซึ่งกลิ่นปากเป็นก๊าซเหม็นที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราและออกมาทางลมหายใจ ต้นตอของกลิ่นปากอาจจะมาจากในปาก ในลำคอ หรือในจมูกก็ได้ กลิ่นปากเป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็น และยังทำให้บุคลิกภาพไม่ดีอีกด้วย ทำให้สูญเสียความมั่นใจ และอาจทำให้เกิดสภาวะเครียดได้ และบางทีปัญหานี้ก็อาจส่งผลกระทบในการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมถึงความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว ดังนั้น สำหรับคนที่มีปัญหาปากมีกลิ่นเหม็นเชื่อว่าเรื่องกลิ่นปากไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ของพวกเขาอย่างแน่นอน
วิธีทดสอบกลิ่นปากด้วยตัวเอง
การทดสอบกลิ่นปากด้วยตัวเองมีหลายวิธี ดังนี้
1. หายใจเข้าให้เต็มที่ ใช้มือป้องปากและจมูกเอาไว้ แล้วหายใจออกจากปาก จากนั้นให้สูดลมหายใจเข้าทางจมูกเพื่อดมกลิ่นว่าเหม็นหรือไม่
2. ล้างบริเวณข้อมือให้สะอาด จากนั้นใช้วิธีเลียข้อมือและดมดู ปล่อยไว้สักครู่ให้แห้ง แล้วดมกลิ่นที่หลังมือ เพื่อเช็คกลิ่นจากน้ำลาย หรือในบางคนอาจจะใช้นิ้วมือถูที่บริเวณเหงือกแล้วนำมาดมกลิ่นว่าเหม็นหรือไม่
3. ให้บ้วนน้ำลายออกมาแล้วลองดมกลิ่นน้ำลายดู ซึ่งปกติแล้วน้ำลายจะเป็นสารคัดหลั่งที่สะอาดและไม่มีกลิ่น ถ้าน้ำลายมีกลิ่นก็แสดงว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อโรค และน้ำลายนั้นอาจผ่านนิ่วที่ต่อมทอนซิลออกมา
4. ดมกลิ่นแปรงสีฟัน หลังจากลองปัดที่ลิ้นเบา ๆ ดูว่ามีกลิ่นเหม็นหรือไม่
5. วิธีที่ชัวร์ที่สุดคือ การขอร้องให้คนใกล้ชิดช่วยเช็คกลิ่นปาก โดยให้บอกว่ากลิ่นปากมีกลิ่นเหม็นหรือไม่

ปากเหม็นเกิดจากอะไร
สาเหตุการเกิดกลิ่นปากเหม็น จะเกิดได้จากทั้งภายใน และภายนอกของช่องปาก ดังนี้
ภายในช่องปาก
- แผลในช่องปาก แผลที่เกิดขึ้นภายในช่องปาก เช่น แผลร้อนใน แผลที่เกิดขึ้นภายหลังการถอนฟัน หรือแผลที่เกิดจากการผ่าตัดในช่องปาก
 - ฟันผุ เกิดจากเศษอาหารที่ตกค้างสะสมอยู่ในรูฟันผุ จนทะลุโพรงประสาทฟัน และมีหนองเกิดขึ้นที่บริเวณปลายรากฟัน
 - เป็นโรคเหงือกอักเสบ เกิดจากคราบของจุลินทรีย์ที่สะสมในเหงือก กระดูกรองรับรากฟัน เคลือบรากฟัน และเอ็นยึดรากฟันกับกระดูกเบ้าฟัน เมื่อไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดีจะทำให้เกิดคราบสะสมเป็นเวลานาน จนกลายเป็นคราบหินปูน ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือกและเกิดการอักเสบในที่สุด
 - ผู้ที่ใส่เครื่องมือทำฟันต่าง ๆ หรือฟันปลอม ในช่องปาก เช่น ใส่เครื่องมือจัดฟัน หรือใส่เครื่องมือป้องกันฟันล้ม แต่รักษาความสะอาดได้ไม่ดี ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก
 - น้ำลาย ปกติน้ำลายจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกออก ถ้าในช่องปากมีน้ำลายหลั่งออกมามาก ช่องปากก็จะสะอาดมากกว่าคนที่น้ำลายหลั่งออกมาน้อย นอกจากนั้น ยังช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและลดการเกิดกลิ่น แต่หากร่างกายขาดน้ำ การผลิตน้ำลายออกมาเพื่อต่อกรกับสิ่งสกปรกภายในช่องปากก็เป็นไปได้น้อยเช่นกัน
 
โดยสิ่งที่จะทำให้มีการหลั่งน้ำลายออกมาได้น้อย เช่น การดื่มน้ำไม่เพียงพอ อากาศร้อน ความเครียด การเจ็บป่วยด้วยโรค ตลอดจนอาชีพที่ใช้เสียงมาก ๆ หรือไม่ค่อยพูด ก็จะส่งผลให้มีน้ำลายน้อย และมีกลิ่นปากได้
- ลิ้น ในบริเวณโคนลิ้นด้านในสุด เป็นบริเวณที่จะมีน้ำเมือกในช่องจมูกไหลลงสู่คอ ซึ่งภาวะนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดจากการเจ็บป่วยด้วยโรค แต่จะมีสาเหตุมาจากอาการภูมิแพ้ ซึ่งอาการนี้จะไม่ทำให้เกิดกลิ่นปากในระยะแรก ๆ แต่ถ้าหากทิ้งไว้สัก 2-3 วัน แบคทีเรียในช่องปากจะย่อยน้ำเมือกทำให้เกิดกลิ่นได้
 
ภายนอกช่องปาก
- การสูบบุหรี่ เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบและคนรอบข้างไม่พอ ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้สูบเป็นโรคปริทันต์รุนแรงมากขึ้นด้วย และกลิ่นของบุหรี่ที่ตกค้างอยู่ในช่องปากที่ผสมกับกลิ่นอื่น ๆ ก็จะเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นเหม็นเฉพาะตัวขึ้นได้
 - การรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่น เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ สะตอ ชีส ทุเรียน และแอลกอฮอล์ จะทำให้มีกลิ่นปากได้ แต่โดยธรรมชาติอาหารพวกนี้เมื่อถูกย่อยดูดซึม และขับถ่ายออกแล้วกลิ่นก็จะหายไปได้เอง
 
โรคที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้
โรคที่สามารถทำให้เกิดกลิ่นปากได้ มีดังนี้
1. โรคในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เริ่มตั้งแต่จมูก คอ ไปจนถึงหลอดลม เช่น โรคไซนัสอักเสบ โรคทอนซิลอักเสบ และโรคมะเร็งที่โพรงจมูก ซึ่งลมหายใจที่ออกมาก็จะมีกลิ่นเหม็น และอาจส่งผลให้มีกลิ่นปากได้
2. โรคในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ ปอด และลำไส้ เช่น วัณโรคปอดหรือมะเร็งปอด โรคปอดเรื้อรัง โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร และโรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย เช่น ท้องผูก

13 วิธีแก้ปากเหม็นถาวร แบบธรรมชาติ ให้กลิ่นปากหอมสดชื่น
เมื่อรู้สาเหตุการเกิดกลิ่นปากแล้ว ก็จะต้องหาวิธีแก้ไข เพื่อลดการเกิดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ และเรียกความมั่นใจให้กลับคืนมา โดยเราได้รวบรวมวิธีแก้ปากเหม็นถาวร แบบธรรมชาติ มาให้สำหรับผู้ที่มีปัญหากลิ่นปากทุกคนแล้ว จะมีวิธีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

1. ใช้เบกกิ้งโซดา
วิธีนี้จะช่วยชะล้างแบคทีเรียภายในปาก วิธีแก้คือ การละลายเบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชาในน้ำ 1 แก้ว แล้วกลั้วในปากเป็นเวลาประมาณ 30 วินาที เหมือนเป็นการบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากแบบธรรมชาติ

2. ใช้ว่านหางจระเข้
มีสรรพคุณในการลดกลิ่นปากด้วยการลดปริมาณแบคทีเรียในช่องปาก และช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลาย วิธีแก้ง่าย ๆ ทำได้โดยการบ้วนปากด้วยน้ำว่านหางจระเข้วันละ 2 ครั้ง 2 เวลา เช้าและเย็น

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำน้อยจะทำให้การไหลเวียนของน้ำลายน้อยตามไปด้วย และเป็นสาเหตุของการมีกลิ่นปาก ในหนึ่งวันควรดื่มน้ำให้ได้ปริมาณ 2 ลิตร หรือประมาณ 8 แก้ว ดื่มบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของน้ำลายในช่องปาก

4. รับประทานผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร
การเคี้ยวผักหรือผลไม้ที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เช่น ผักกาดแก้ว กะหล่ำปลี ขึ้นฉ่าย แครอท แอปเปิ้ล และฝรั่ง เพราะการเคี้ยวผักและผลไม้เหล่านี้จะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกในปากและเสริมการหลั่งน้ำลายอีกด้วย
5. รับประทานมะนาวและบ๊วยดอง
มะนาวและบ๊วยมีกรดอินทรีย์ที่ช่วยเสริมสร้างการหลั่งน้ำลายและเสริมการย่อยสลายของโปรตีนที่เป็นสาเหตุการเกิดกลิ่นเหม็นในปาก อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้อาหารที่ติดอยู่ในซอกฟันส่งกลิ่นเหม็นในกรณีที่ไม่ได้แปรงฟันหลังอาหารในทันทีทันใด

6. ดื่มชา
ชาส่วนใหญ่ประกอบด้วยฟลาโวนอยด์ ที่มีฤทธิ์ในการลดกลิ่นปากและช่วยกำจัดแบคทีเรียในช่องปาก วิธีการที่มีประสิทธิภาพอีกวิธีหนึ่งในการช่วยลดกลิ่นปากได้ดีที่สุดคือ การดื่มชาหลังมื้ออาหาร

7. รับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำ
สาเหตุสำคัญของกลิ่นปากคือ การมีแบคทีเรียส่วนเกินในกระเพาะอาหารและในลำไส้เล็ก ซึ่งทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ การรับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำจะช่วยปรับสภาพแวดล้อมในลำไส้ให้ดีขึ้น อีกทั้ง ผลการวิจัยที่ยืนยันว่าการรับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน วันละประมาณ 1 ถ้วย จะช่วยลดปริมาณสารที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นในปากได้ เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์
8. บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ
น้ำเกลือมีสรรพคุณช่วยรักษาแผลในช่องปาก ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ปากสะอาดเหมาะกับการทำความสะอาดฟันอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังช่วยล้างแผลในปากได้อีกด้วย แต่ระวังอย่าผสมน้ำเกลือเข้มข้นจนเกินไป ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดผลเสียกับสุขภาพตามมาได้เหมือนกัน
9. เคี้ยวเปลือกส้มหรือเปลือกมะนาว
ในมะนาวมีกรดซิตริก ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับกรดในน้ำลายที่แม้จะเจือจางแต่ก็สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในช่องปากได้ การนำเปลือกมะนาวหรือเปลือกส้มที่คั้นน้ำแล้วมาเคี้ยวสักครู่จะช่วยให้แบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นลดลงได้ แต่หลังจากเคี้ยวแล้ว อย่าลืมบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดด้วย เพราะกรดชนิดนี้หากทิ้งไว้ในปากนาน ๆ ก็สามารถกัดกร่อนเนื้อฟันได้เหมือนกัน
10. รับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์ให้มากขึ้น
ระบบขับถ่ายที่ผิดปกติ สามารถทำให้เกิดกลิ่นปากได้ เพราะเมื่อคนเราเกิดปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายอย่างเช่น ท้องผูก ก็จะทำให้ร่างกายไม่สามารถขจัดสารพิษในร่างกายออกไปได้ ส่งผลให้สารพิษตกค้างอยู่ในร่างกายและเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อยู่ในกระเพาะและลำไส้ และกลิ่นนั้นก็จะขึ้นมาถึงระบบทางเดินอาหารส่วนบน สู่ปากกลายเป็นกลิ่นปากที่เหม็นได้ การรับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์ เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ มิโสะ เป็นต้น จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ไม่มีสารพิษตกค้างในร่างกายและขจัดกลิ่นปากไปได้เช่นกัน

11. รับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีให้เพียงพอ
กลิ่นปากบางครั้งก็มาจากการขาดสารอาหารบางชนิดได้เช่นกัน เช่น การขาดแร่ธาตุสังกะสี เพราะสังกะสีนั้นมีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคที่เป็นอันตราย การรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เช่น ฟักทอง โกโก้ และเครื่องในสัตว์ จะทำให้ร่างกายมีความสามารถในการต่อสู้กับแบคทีเรียมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเรื่องระบบไหลเวียนของเลือดและป้องกันโรคกระดูกพรุนอีกด้วย
12. เคี้ยวสมุนไพรหรือเครื่องเทศสด ๆ
สมุนไพร หรือเครื่องเทศ จำพวกใบพาร์สลีย์ โหระพา สะระแหน่ เพราะสมุนไพรเหล่านี้นอกจากจะมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้กลิ่นปากหอมสดชื่นได้แล้ว ยังมีสารคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในสมุนไพรก็ช่วยลดกลิ่นปากได้อีกด้วย ปริมาณในการเคี้ยวก็ไม่ต้องเยอะมาก เคี้ยวเพียงกิ่งเล็ก ๆ ก็พอแล้วค่ะ แค่นี้ก็ช่วยลดปัญหากลิ่นปากให้หมดไปได้

13. บ้วนปากด้วยน้ำยาดับกลิ่นปากจากธรรมชาติ
สูตรน้ำยาดับกลิ่นปากจากธรรมชาติ โดยสูตรแรกคือ สูตรขิงและมะนาว วิธีแก้คือ ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา, น้ำขิงสด 1 ช้อนชา และน้ำอุ่น 1 แก้ว นำมาผสมให้เข้ากัน แล้วใช้กลั้วปากวันละ 1 ครั้ง หลังการแปรงฟันตอนเช้า และสูตรที่ 2 คือ สูตรใบฝรั่ง วิธีแก้คือ นำใบฝรั่งมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำเกลือ 0.9% ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เสร็จแล้วกรองเอาแต่น้ำเก็บมาไว้ใช้บ้วนปาก ก็จะช่วยลดปัญหากลิ่นปากได้แล้วค่ะ

การป้องกันการเกิดกลิ่นปาก
กลิ่นปากอันไท่พึงประสงค์ สามารถแก้ไขได้ หากมีวิธีจัดการที่ดี และการป้องกันการเกิดกลิ่นปาก สามารถทำได้ดังนี้
- ควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ตอนตื่นนอน และก่อนเข้านอน และเปลี่ยนแปรงทุก ๆ 2-3 เดือน และอย่าลืมแปรงลิ้นเพื่อลดแบคทีเรียที่สะสมอยู่ด้วย
 - ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันทุกวัน หรือหลังจากรับประทานอาหาร และขัดฟันทุกซี่ ทุกซอก และทุกมุมให้สะอาด
 - ใช้น้ำยาบ้วนปากสม่ำเสมอ เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากให้หมดไป
 - ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น โดยการสร้างการหลั่งน้ำลายให้มากขึ้น จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้มีปัญหากลิ่นปากได้
 - การเลิกบุหรี่ ก็จะช่วยลดกลิ่นปากได้ เพราะการสูบบุหรี่ก็จะทิ้งกลิ่นบุหรี่ไว้ เมื่อผสมกับกลิ่นอื่น ๆ ก็จะทำให้ปากมีกลิ่นเหม็นได้ ดังนั้น การเลิกบุหรี่จึงเป็นการป้องกันการเกิดกลิ่นปากได้อย่างดี
 - ในกรณีที่จัดฟัน หรือใส่ฟันปลอม ควรหมั่นดูแลและทำความสะอาดอุปกรณ์จัดฟัน หรือฟันปลอมในช่องปากทุกวัน
 - การพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อตรวจเช็คสภาพช่องปาก และทำความสะอาดฟันได้อย่างล้ำลึก
 
Q&A เกี่ยวกับวิธีแก้ปากเหม็นถาวร
Q : ทำไมปากยังเหม็นทั้งที่แปรงฟันทุกวัน
A : เนื่องจากการแปรงฟันที่ไม่สะอาดดี แล้วมีคราบเศษอาหารหลงเหลือ ติดอยู่ในซอกฟัน เกิดการหมักหมม ทำให้เกิดกลิ่นได้ ถ้าเราแปรงฟัน และใช้ตัวช่วยอื่น ๆ อย่างแปรงซอกฟัน หรือไหมขัดฟันทำความสะอาดในส่วนที่แปรงเข้าไม่ถึง จนคราบสกปรกหมด กลิ่นปากก็อาจจะหายไปได้ หรือมาจากโรคในช่องปาก ที่ต้องให้ทันตแพทย์ช่วยตรวจสอบ เช่น การมีฟันผุ เหงือกอักเสบ หินปูนเยอะ หรือมีแผลเกิดขึ้นในปากบ่อย อาการเหล่านี้ก่อให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน
Q : การขูดหินปูนช่วยลดการเกิดกลิ่นปากได้ไหม?
A : คราบพลัค หรือคราบหินปูน เกิดจากการทานอาหาร และการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เวลาที่เราทานอาหารเข้าไป อาหารที่กินเข้าไปก็ถือว่าเป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ และถ้าเราแปรงฟันไม่สะอาด เศษอาหารหรือคราบโปรตีนที่หลงเหลือในช่องปากจะเกิดการสะสม จนกลายเป็นแร่ธาตุที่เกิดจากจุลินทรีย์จำนวนมาก เมื่อเกาะตัวกันที่บริเวณฟันนาน ๆ จะกลายเป็นแร่ธาตุ นานวันก็จะแข็งตัวยิ่งขึ้นกลายเป็นคราบพลัคและหินปูน ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหากลิ่นปาก ดังนั้น การขูดหินปูน ก็จะช่วยทำลายคราบพลัค และคราบหินปูนให้หลุดออกไปได้ ก็จะช่วยลดการเกิดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ

สรุป การแก้ปากเหม็นถาวร ให้กลิ่นปากหอมสดชื่น
ปัญหากลิ่นปาก หรือปากเหม็นนั้น ทำให้เราไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งถ้าต้องเข้าสังคม หรือพูดคุยกับคนอื่น ๆ ยิ่งเสียความมั่นใจเข้าไปใหญ่ ดังนั้น เราจึงต้องมีวิธีแก้ปัญหากลิ่นปากให้อยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดสุขภาพช่องปาก ใช้น้ำยาบ้วนปาก หรือการดื่มน้ำมาก ๆ นอกจากนั้นยังต้องลดพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก นอกจากนั้น กลิ่นปากยังสามารถบอกถึงโรคได้ด้วย จึงต้องหาสาเหตุก่อนว่ากลิ่นปากเกิดจากปัจจัยอะไร เป็นที่การรับประทานอาหาร การสูบบุหรี่ หรือปัญหาสุขภาพช่องปาก เพราะถ้าหากเกิดจากสุขภาพช่องปาก ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษา และไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้มีปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้
เอกสารอ้างอิง
O’Keefe Osborn C. (2023, April 25). Things you can try at home to eliminate bad breath. Healthline. https://www.healthline.com/health/home-remedies-for-bad-breath#_noHeaderPrefixedContent
Croasdaile Dental Arts. (2023, January 4). 10 Easy home remedies for bad breath. Croasdaile Dental Arts. https://www.croasdailedentalarts.com/blog/at-home-bad-breath-remedies/