สาว ๆ คนไหนที่กำลังกังวลใจกับปัญหาขาใหญ่ ที่ทำให้ต้นขาดูย้วย ไม่กระชับ แถมมีเซลลูไลท์ จนหมดความมั่นใจ เพราะใส่กางเกงทรงไหนก็ไม่สวย แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะบทความนี้เรามีวิธีลดขาใหญ่ แบบเร่งด่วน ด้วยเคล็ดลับการลดต้นขาที่ปลอดภัย ทำแล้วเห็นผลจริง ให้ขาของสาว ๆ กลับมาเรียวสวยเหมือนเสกได้ แต่ก่อนจะไปถึงวิธีลดขาใหญ่ เรามีรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของขาก่อนว่ามีอะไรบ้าง รวมไปถึงสาเหตุที่ทำให้ขาใหญ่ จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลยค่ะ
รู้จักองค์ประกอบของขา
ขาแบ่งออกเป็นส่วนต้นขา และน่อง ซึ่งต้นขาก็คือ ส่วนที่ต่อจากขาหนีบลงมาถึงเข่า และน่องคือ ส่วนของขาตั้งแต่เข่าลงมาถึงข้อเท้า โดยองค์ประกอบของขา จะประกอบไปด้วย
1. กระดูก กระดูกเกิดจากกรรมพันธุ์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงขนาดได้ บางคนโครงกระดูกใหญ่ บางคนโครงกระดูกเล็ก
2. กล้ามเนื้อ มีหน้าที่คอยหุ้มกระดูกอีกชั้นหนึ่งของกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถที่จะเพิ่มหรือลดขนาดได้
3. ไขมัน คือปัญหาหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดขนาดขาที่ใหญ่นั่นเอง มันจะอยู่ชั้นบริเวณนอกสุดของร่างกายหรืออยู่ติดกับผิวหนังของเรานั่นเอง ซึ่งสัดส่วนของไขมันบริเวณต้นขาจะมีมากกว่าที่บริเวณน่อง และหากมีการสะสมในร่างกายเยอะจนเกินไป จะทำให้ร่างกายขยายใหญ่ขึ้น รวมถึงบริเวณขาที่ใหญ่ขึ้นด้วย
ต้นขาใหญ่เกิดจากอะไร
ก่อนจะรู้วิธีลดต้นขาใหญ่ ที่เกิดจากไขมัน เรามารู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ต้นขาใหญ่กันก่อนดีกว่า ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
- พันธุกรรม หากสังเกตเห็นว่าการที่ต้นขาของคุณใหญ่ สาเหตุอาจเกิดจากโครงกระดูกที่ใหญ่ตามกรรมพันธุ์ โดยสังเกตได้จากการที่หากคุณได้ลองออกกำลังกาย หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินแล้ว แต่ขนาดของต้นขายังเท่าเดิมไม่ลดลงเลยนั่นเอง
- พฤติกรรม สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกินบนต้นขาก็คือ พฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหารที่เพิ่มไขมัน การไม่ออกกำลังกาย รวมถึงการยืน เดิน หรือวิ่งมากไป พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนกระตุ้นการเกิดไขมันที่ขานั่นเอง
18 วิธีลดขาใหญ่แบบเร่งด่วน ให้ขาเรียวสวย เห็นผลจริง
เมื่อรู้สาเหตุที่ทำให้ขาใหญ่แล้ว ก็มารู้วิธีลดขาใหญ่แบบเร่งด่วน เพื่อให้ขาของสาว ๆ ที่กำลังประสบปัญหาขาใหญ่ ให้กลับมาเรียวสวย กล้าที่จะอวดเรียวขา ซึ่งวิธีที่เรานำมาฝากทั้งหมด 18 วิธีนั้น เชื่อมั่นได้อย่างแน่นอนว่าทำแล้วเห็นผลจริง ขาที่ใหญ่สามารถกลับมาเรียว สวยขึ้นได้ จะมีวิธีอะไรบ้างนั้น มาดูกันได้เลยค่ะ
1. ควบคุมการทานอาหาร
เป็นวิธีที่คุณสามารถทำได้เอง โดยการหลีกเลี่ยงอาหารประเภทของทอด ของมัน แป้ง และน้ำตาล ควบคุมปริมาณแคลอรีที่รับประทานในแต่ละวัน ให้อยู่ที่ประมาณ 250-500 กิโลแคลอรีต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมน้ำหนักให้ลดลงได้อย่างน้อย 1/2 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ และทำให้ร่างกายสามารถดึงไขมันส่วนเกินมาใช้เป็นพลังงาน เพื่อลดไขมันตามส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณต้นขา ที่เป็นแหล่งสะสมของไขมันมากที่สุด
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดต้นขาให้เล็กและเรียวได้ เพราะการดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ และดื่มบ่อย ๆ จะทำให้การกินอาหารในแต่ละมื้อลดลง แถมยังช่วยลดความหิวลงอีกด้วย ทำให้ร่างกายจะทำการดึงไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมาเผาผลาญให้เป็นพลังงานต่อไป รวมถึงไขมันบริเวณต้นขาด้วย
3. ออกกำลังกายลดต้นขา
การออกกำลังกายแบบเฉพาะส่วน เน้นที่บริเวณต้นขาเป็นหลัก เช่น การออกกำลังกายแบบคาดิโด, Squat, Sumo Squat, Lunges, Wall Sit Squat, Jumping Jacks, Squat Jumps และ Leg raises ซึ่งเป็นท่าออกกำลังกายที่เน้นลดต้นขาโดยเฉพาะ นอกจากนั้น ก็สามารถออกกำลังกายโดยการ วิ่ง/ปั่นจักรยาน ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยลดต้นขาได้ดีที่สุด เพราะทำให้เกิดการหด เกร็ง และเพิ่มความกระชับให้กับบริเวณต้นขาเนื่องจากเป็นการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อหลายส่วนนั่นเอง
4. ท่าโยคะลดต้นขา
เป็นท่าโยคะที่เรียกว่า ท่ากระดาน ซึ่งเป็นการฝึกความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อแขน ขา และหน้าท้อง เมื่อทำเป็นประจำจะช่วยลดต้นขาได้ โดยให้ยกตัวคล้ายกับการซิตอัพแต่ให้ค้างเอาไว้ประมาณ 5-10 วินาที จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนคลายลง หากชำนาญขึ้นแล้วให้เพิ่มเวลาในการทำขึ้นไปเรื่อย ๆ
5. ก้าวขาไปข้างหน้าแล้วย่อเข่า
วิธีนี้ทำโดยการก้าวขาข้างหนึ่งออกมาด้านหน้าจากนั้นให้ย่อเข่าลงให้เกือบถึงพื้น โดยขณะที่ย่อลงให้หายใจเข้า พอยืนขึ้นให้หายใจออก จากนั้นสลับทำแบบเดียวกันกับอีกข้าง ทำต่อเนื่องข้างละ 12-15 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต ควรทำ 2-3 เซ็ตต่อวัน ก็จะทำให้ต้นขาของคุณกลับมากระชับขึ้น
6. เดินวันละ 1 ชั่วโมง
เพียงแค่ออกมาเดินยืดเส้นยืดสายสักวันละ 1 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว ทำต่อเนื่องราว ๆ 1-2 เดือน รับรองว่าสามารถลดต้นขาจนเห็นความแตกต่างได้อย่างแน่นอน แต่ให้ทำควบคู่กับการควบคุมอาหารไปด้วยนะ
7. กระโดดเชือกด้วยวิธีที่ถูกต้อง
เป็นวิธีพื้นฐานที่สุดแต่มีประสิทธิภาพมาก ๆ โดยต้องทำอย่างถูกวิธี กระโดดสูงจากพื้นไม่เกิน 1-2 นิ้ว และให้งอเข่าเล็กน้อยเพื่อช่วยดูดซับแรงกระแทกได้มากขึ้น ในทางกลับกันหากกระโดดจากพื้นสูงเกินไป จะทำให้เข่าพังและได้รับบาดเจ็บในที่สุด
8. นอนหงายยกต้นขา
วิธีนี้ทำได้ง่าย โดยการนอนราบไปกับพื้น เหยียดขาตรง แขนชิดลำตัว จากนั้นยกขาทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกันแล้วค้างไว้ 20 วินาที จากนั้นให้วางขาลง พักสักครู่ แล้วยกขาขึ้นใหม่ ทำวนไปทั้งหมด 20 เซ็ต ก็จะช่วยลดต้นขาใหญ่ให้เรียวเล็กลงได้ และถ้าทำต่อเนื่องทุก ๆ วันรับรองว่าเห็นผลจริงอย่างแน่นอน
9. ทำขาเรียวด้วยเจลร้อน
เจลร้อนสำหรับการลดสัดส่วนมักจะประกอบไปด้วยสารสกัดที่ช่วยเร่งให้เกิดการเผาผลาญ เช่น สารสกัดจากพริก, คาเฟอีน, ส้มแขก แคปซาซิน ไคโตซาน และโกโก้ ซึ่งทำให้เกิดความร้อนลงสู่ชั้นผิว โดยการทาครีมลงบนผิวแล้วนวดคลึงต้นขาไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย 20-30 นาทีต่อวัน เพื่อให้ไขมันเกิดการแตกตัว ซึ่งจะทำให้เซลลูไลท์ที่ต้นขาลดลง ช่วยให้ต้นขาจากที่ใหญ่เล็กลงได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาและอาศัยความต่อเนื่อง
10. นวดขาเรียว
การนวดต้นขาจะช่วยให้เกิดการผ่อนคลายและลดความตึงของกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด และช่วยให้ไขมันส่วนเกินที่ต้นขาแตกตัวเล็กลง ทำให้ร่างกายสามารถขับไขมันออกทางน้ำเหลืองได้ง่ายขึ้น ซึ่งขั้นตอนในการนวดคือ โกยเนื้อต้นขาด้านนอกและด้านในขึ้นเป็นวงกลมถี่ ๆ ในทิศทางเข้าหาต่อมน้ำเหลือง นวดข้างละ 20 ครั้ง จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างบิดเนื้อต้นขาในทิศทางตรงกันข้ามกันเหมือนบิดผ้า ข้างละ 30 ครั้ง เมื่อทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันก็จะทำให้ต้นขาเรียวขึ้นได้
11. ใส่สายรัดขาเรียว
สายรัดที่กระชับสัดส่วน มีลักษณะคล้ายปลอกขาป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อสำหรับใส่ออกกำลังกาย แต่มีความยืดหยุ่นมากกว่า โดยใช้ใส่รัดบริเวณต้นขาก่อนเข้านอน หรือในระหว่างวัน เพื่อช่วยเก็บต้นขาที่มีไขมัน หย่อนคล้อย ให้ดูกระชับขึ้น แต่ต้องใส่เป็นประจำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผล
12. เครื่อง RF สลายไขมันต้นขา
เป็นเครื่องมือที่ช่วยยกกระชับผิว สลายไขมันและเซลลูไลท์ เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาเซลลูไลท์ หรือไขมันสะสมบริเวณสะโพก หน้าท้อง ต้นแขน และที่สำคัญคือ ต้นขา เป็นสาเหตุให้ต้นขาใหญ่ ซึ่งการทำ RF จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้ดีขึ้น สัดส่วนกระชับขึ้น ลดปัญหาผิวเปลือกส้ม เหมาะสำหรับคนที่กลัวความเจ็บจากการผ่าตัด
13. Carboxy Therapy
เป็นการใช้เข็มที่มีขนาดเล็กแทงผ่านผิวหนัง จากนั้นทำการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดอ๊อกไซด์กระจายตัวเข้าไปในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังบริเวณต้นขา เพื่อให้เส้นเลือดบริเวณนั้นเกิดการขยายตัว เลือดมาเลี้ยงบริเวณต้นขาได้ดี ทำให้ต้นขาได้รับออกซิเจนมากขึ้น ซึ่งออกซิเจนจะไปช่วยลดการคั่งของของเหลวระหว่างเซลล์ จนทำให้เซลล์ไขมันเกิดการสลายตัวลดลง ส่งผลให้เนื้อเยื่อผิวหนังกระชับขึ้น ต้นขาจึงดูเรียวขึ้น แต่ต้องทำต่อเนื่อง 15-20 ครั้งขึ้นไป ทุก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ จึงจะเห็นผลชัดเจน
14. ดูดไขมันต้นขา
เป็นกระบวนการศัลยกรรมเพื่อความงาม โดยใช้เทคนิคการกำจัดไขมันส่วนเกิน ชั้นใต้ผิวหนังแบบเฉพาะส่วน เพื่อปรับปรุงบริเวณต้นขาให้มีความเรียวกระชับขึ้น โดยแพทย์จะทำการกรีดแผลที่ต้นขา จากนั้นใช้คลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งจะช่วยให้ไขมันแตกสลายเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ เพื่อสามารถดูดไขมันออกมาได้โดยง่าย จากนั้นเริ่มทำการดูดบริเวณต้นขาด้านใน ต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง เพื่อให้ต้นขาเรียวอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด หลังการทำจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที
15. ฉีดเมโสแฟตต้นขา
เป็นวิธีในการลดไขมัน เซลลูไลท์บริเวณต้นขา โดยจะใช้การฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวหนัง จากนั้นตัวยาจะออกฤทธิ์กระตุ้นระบบการทำงานของเมตาบอลิซึม ไขมันส่วนหนึ่งจะแตกตัว และถูกขับออกไปตามกลไกการขับของเสียของร่างกายปะปนออกมากับเหงื่อ อุจจาระ และปัสสาวะ นอกจากนี้ยังจะช่วยดึงไขมันส่วนเกินมาใช้เป็นพลังงาน จึงทำให้ต้นขาดูเรียวกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถเห็นผลได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ หลังทำสำหรับผู้ที่มีไขมันไม่มาก แต่สำหรับผู้ที่มีไขมันมาก อาจต้องทำซ้ำ 3-4 ครั้งขึ้นไปจึงเริ่มมีการเห็นผลที่ชัดเจน
16. ฉีดขาเรียว
Lipo Dissolve หรือที่เรียกว่า LLD เป็นวิธีการสลายเซลล์ไขมันแบบใหม่ ซึ่งตัวยา จะมีการออกฤทธิ์ทำลายเซลล์ไขมันในเนื้อเยื่อชั้นไขมันให้เกิดการแตกตัว และช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของระบบน้ำเหลืองใต้ผิวหนังให้ทำงานได้ดีขึ้น จึงทำให้สามารถกำจัดไขมันบริเวณต้นขาได้รวดเร็ว มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก FDA ซึ่งมีความแตกต่างจากการฉีดเมโสแฟต โดยใช้ตัวยาในปริมาณที่น้อยกว่า เพียง 4-6 เข็มเท่านั้น นอกจากนั้น ยังเห็นผลชัดเจน และเร็วกว่าภายใน 2-4 สัปดาห์
17. Z Lipo + Z Wave ลดไขมันต้นขา
เป็นการใช้ 2 เทคนิค ลดไขมันแบบเฉพาะจุดด้วยระดับความเย็น -5°C ถึง -10°C ควบคู่กับการสั่นสะเทือนใต้ชั้นผิว โดย Z Lipo จะทำหน้าที่ดูดเนื้อบริเวณที่ต้องการจำกัดไขมันขึ้นมาแล้วทำให้เกิดการสั่นสะเทือน เพื่อให้เซลล์ไขมันแตกตัวออกจากกันเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ แล้วสามารถกำจัดออกไปได้ง่าย จากนั้นปล่อยคลื่นความเย็นแช่แข็งเซลล์ไขมันที่ตาย และ Z Wave ทำหน้าที่ส่งคลื่นความถี่เข้าไปที่ชั้นไขมัน เพื่อให้ระบบน้ำเหลืองลำเลียงไขมันส่วนเกินให้ออกจากร่างกายได้ง่าย ดังนั้นไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อน หรือเซลลูไลท์ในชั้นไขมันต้นขาจึงบางลง ทำให้ต้นขาเล็กลง ซึ่งเป็นวิธีที่มีความปลอดภัย ไม่ส่งผลข้างเคียงในระยะยาวกับผิว
18. ฉีดโบท็อกลดต้นขา
วิธีนี้ทำโดยการใช้สาร Botulinum toxin ฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อบริเวณต้นขา เพื่อให้สารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อที่ใหญ่ และแข็ง ให้เล็กลงชั่วคราว ซึ่งหลังการฉีดโบท็อกจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวใด ๆ ของร่างกาย วิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต้นขาใหญ่จากกล้ามเนื้อเท่านั้น เพราะสารโบท็อกจะไม่สามารถกำจัดไขมันได้ ซึ่งหลังการฉีดโบท็อกจะเห็นผลภายใน 7-14 วัน และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนว่าต้นขาเรียวเล็กลงใน 1 เดือน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน จากนั้นต้องกลับมาฉีดซ้ำอีกครั้ง
การดูแล และป้องกันปัญหาขาใหญ่
นอกจากทำตามวิธีลดต้นขาใหญ่ ให้ขาเรียวเล็กลงแล้ว การดูแล และป้องกันปัญหาขาใหญ่ไม่ให้เกิดขึ้น ก็เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยลดแนวโน้มของปัญหาต้นขาใหญ่ นอกจากนั้น ยังส่งผลดีให้กับส่วนอื่น ๆ ของร่างกายด้วย โดยมีวิธีดูแล และป้องกัน ดังนี้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะน้ำเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่อยู่ในร่างกาย และช่วยขับไขมันที่มาจากอาหารและเครื่องดื่มให้ออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี
- ลดโซเดียม ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำ เนื่องจากมีการกักเก็บน้ำส่วนเกินไว้ จะส่งผลทำให้ต้นขาใหญ่ขึ้นได้โดยตรง
- การทานของทอด ของมัน แป้งขัดสี และน้ำตาล อาจทำให้ต้นขาใหญ่ได้ ดังนั้นจึงควรงดอาหารจำพวกนี้แล้วหันมารับประทานโปรตีน ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้อิ่มนานขึ้น และยังช่วยลดการทานของจุกจิกในระหว่างวัน ซึ่งอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลาแซลมอน ทูน่า และไข่
- ทานผักและผลไม้ ที่อุดมไปวิตามินต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการ มีกากใยสูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ผักที่มีสีเขียวเข้มยังประกอบไปด้วยอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยปรับความสมดุลให้ของเหลวภายในร่างกายอีกด้วย
- ออกกำลังกายกระชับสัดส่วนแบบเฉพาะจุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญแคลอรี่และไขมันส่วนเกินได้ดียิ่งขึ้น เช่น การออกกำลังกาย Weight Training หรือคาร์ดิโอ
- การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีขึ้น ถ้าหากพักผ่อนน้อยจะทำให้ระดับคอร์ติซอลพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ร่างกายสูญเสียการควบคุมกลูโคส อาจส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น แล้วทำให้ขาใหญ่ขึ้นได้ด้วยนั่นเอง
Q&A เกี่ยวกับวิธีลดต้นขาใหญ่
Q : ลดขาใหญ่ เร่งด่วนได้จริงหรือ?
A : การลดขาใหญ่เร่งด่วนสามารถทำได้ค่ะ แต่คำว่า เร่งด่วน ของคนเราอาจจะไม่เท่ากัน บางคนอาจจะมองว่าภายใน 1 สัปดาห์, บางคนบอกว่าประมาณ 1 เดือน หรืออาจจะมองว่า 3 เดือนคือเร่งด่วนแล้ว ดังนั้น วิธีลดขาใหญ่ เร่งด่วนก็มีหลายระดับเช่นกัน แต่วิธีที่เห็นผลชัดเจน และเร่งด่วนที่สุด จะเป็นการดูดไขมันต้นขา หรือการฉีดขาเรียว ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะจะสามารถวิเคราะห์การรักษาได้อย่างตรงจุด และในบางกรณีเพื่อให้การเห็นผลที่ชัดเจนและรวดเร็วที่สุด แพทย์อาจมีการพิจารณาวิธีลดต้นขามากกว่า 1 วิธีให้ทำร่วมกัน
Q : กินอะไรลดต้นขาใหญ่ได้บ้าง?
A : เน้นทานโปรตีน อาหารจำพวก ถั่ว ธัญพืช ปลาแซลมอน หรือ ปลาทูน่า และอาหารจำพวกไข่ และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน
สรุป การลดขาใหญ่แบบเร่งด่วน ให้ขาเรียวสวย เห็นผลจริง
สาว ๆ ที่มีปัญหาขาใหญ่อ่านบทความนี้แล้วหวังว่าจะได้ประโยชน์ในการนำวิธีลดขาใหญ่ทั้งหมดนี้ ลองเลือกวิธีที่เหมาะสม และสามารถที่จะทำได้ให้ตรงตามความต้องการของสาว ๆ เพราะเราหวังให้สาว ๆ ทุกคนมีขาที่เรียวสวย มั่นใจในการใช้ชีวิต ดังนั้น เมื่อสาว ๆ เลือกวิธีการลดแล้ว อย่าลืมที่จะดูแล และป้องกันปัญหาขาใหญ่ควบคู่ไปด้วย เพื่อเห็นผลได้เร็ว และชัดเจนขึ้นด้วยค่ะ
เอกสารอ้างอิง
Cherney K. (2020, November 12). How to lose leg fat. Healthline. https://www.healthline.com/health/fitness-exercise/how-to-lose-leg-fat
Lindberg S. (2023, February 8). 10 ways to tone and strengthen your thighs. Healthline. https://www.healthline.com/health/how-to-get-smaller-thighs