ชาวออฟฟิศหรือคนวัยทำงานที่เป็นสายปาร์ตี้ดื่มหนักหลังเลิกงาน แล้วรุ่งเช้าต้องตื่นมาด้วยอาการปวดหัว หงุดหงิด คลื่นไส้ อยากอาเจียน สภาพอ่อนเพลียไปทำงาน เข้าสโลแกนฮอตฮิต Work Hard, Play Harder! อาการแบบนี้คือ อาการแฮงค์ หรือ อาการเมาค้าง ที่เกิดหลังจากดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากเข้าไปนั่นเอง แล้วถ้าปล่อยให้หลังปาร์ตี้กลับมานอนแล้วตื่นมาด้วยอาการเมาค้างบ่อย ๆ พฤติกรรมแบบนี้นานเข้าอาจะนำพาร่างกายไปสู่ความพังแบบถาวรได้
ดังนั้น บทความนี้จะมาแชร์วิธีแก้เมาค้างแบบเร่งด่วน ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง แต่ก่อนจะไปรู้ถึงวิธีแก้เมาค้าง ต้องรู้ก่อนว่าอาการเมาค้าง เกิดจากอะไร และการดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ จะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรได้บ้าง เพื่อป้องกันอาการเมาค้างได้ ตามมาดูกันเลยค่ะ
อาการเมาค้าง เกิดจากอะไร
เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายแล้ว จะเปลี่ยนไปอยู่ในรูปของ อะซิตัล แอลดีไฮด์ (Acetal aldehyde) ซึ่งจะมีพิษต่อเซลล์ร่างกาย ร่างกายจึงมีเอนไซม์ Acetal dehydrogenase มาเปลี่ยนให้เป็น สารอะซีเตต (Acetate) ที่ไม่มีพิษ และร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้ แต่สำหรับร่างกายคนเราบางคน มีการผลิตเอนไซม์ Acetal dehydrogenase ได้ในปริมาณที่จำกัด จึงเกิดการสะสมของอะซิตัล แอลดีไฮด์ ที่เป็นพิษต่อเซลล์ร่างกาย ทำให้ระบบประสาทและสมอง ระบบการย่อยและระบบการดูดซึมอาหาร การนอนหลับ ผิดปกติได้
อาการเมาค้างที่พบได้บ่อย
อาการหลัก ๆ คือ อาการปวดศีรษะ เนื่องจากการคั่งของสารแอลดีไฮด์ที่มีผลต่อการลดปริมาณน้ำตาลในเลือด รบกวนการทำงานของเมลาโทนิน เมื่อเมลาโทนินลดน้อยลงทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นมานั่นเอง นอกจากนั้น แอลกอฮอล์ยังไปกระตุ้นการอักเสบทำให้เกิดอาการต่าง ๆ อีกด้วย นั่นคือ เกิดการอาเจียน คลื่นไส้ ใจสั่น คอแห้ง รู้สึกอ่อนเพลีย หมดแรง และจะรู้สึกกระหายน้ำอยู่ตลอด
การดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร
แอลกอฮอล์ หรือ Etanol Alcohol เป็นสารกดประสาทส่วนกลาง ทำให้กล้ามเนื้อของเรารู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ดื่มเข้าไป แต่เมื่อดื่มเข้าไปมาก ๆ เกินกว่าปริมาณที่ร่างกายรับได้ ร่างกายจะทำทุกทางที่จะขจัดแอลกอฮอล์ออกไป โดยอวัยวะที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ ตับ แต่ไม่ใช่แค่ตับเท่านั้นที่ได้รับพิษจากการดื่มแอลกอฮอล์ ยังส่งผลไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายของเราอีกด้วย เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย และไหลเข้าไปในกระแสเลือด จะเกิดการไหลเวียนทั่วร่างกายและส่งไปยังสมองของเราด้วย โดยสมองจะดูดซับแอลกอฮอล์เข้าไปและกระจายไปทั่วทุกส่วนของสมอง ดังนี้
- สมองส่วนหน้า
ส่วนนี้มีหน้าที่ในการควบคุมความคิด สติ การตัดสินใจ อารมณ์ และบุคลิกภาพ ถ้าร่างกายได้รับแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณมากเกินไป จะส่งผลให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ หรือการดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติยับยั้ง ทำให้การตัดสินใจช้าลง เกิดการตัดสินใจผิดพลาด มีบุคลิกที่เปลี่ยนไป มีความกล้ามากขึ้น ส่วนผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ทุกวัน เมื่อสมองส่วนหน้าถูกทำลายมาก ๆ จะส่งผลต่อพฤติกรรมของคนนั้น จากที่เคยเข้าสังคมได้ นานวันเข้าจะรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติในการเข้าสังคม
- สมองส่วนความจำ
หน้าที่คือ เก็บความทรงจำของเรา เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปและแอลกอฮอล์ได้ถูกดูดซึมเข้าไปในสมองส่วนของความทรงจำ ในบางครั้งความทรงจำร้าย ๆ ที่เราลืมมันไปแล้วก็อาจจะกลับมา ทำให้เรามักจะเห็นหลาย ๆ คนที่เวลาดื่มและมีอาการเมาจะร้องไห้ และรู้สึกเศร้านั่นเอง ในผู้ที่ติดแอลกอฮอล์ สมองส่วนนี้จะถูกทำลายเป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำเสื่อม หรือในบางครั้งที่เรามีอาการเมาหนัก ๆ พอตื่นขึ้นมาแล้วจำอะไรไม่ได้เลย นี่เป็นสัญญาณว่า สมองส่วนความจำเริ่มได้รับผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์
- สมองส่วนไฮโปทาลามัส
หน้าที่คือ ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย การเต้นของหัวใจ ความดัน ความหิว และอิ่ม รวมถึงการนอนหลับ เมื่อสมองส่วนนี้ได้รับแอลกอฮอล์จะทำให้เกิดอาการหิว รู้สึกกระหายน้ำ อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น ความดันแปรปรวน และทำให้คุณภาพในการนอนลดลงอีกด้วย
- สมองส่วนเซรีเบลลัม
หน้าที่คือ ควบคุมการทรงตัว เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจะสังเกตได้ว่าการทรงตัวของเราจะไม่ดี และไม่ปกติ บางคนเดินเซ บางคนมือไม้อ่อนไม่มีแรง บางคนนั่งตัวตรง ๆ ไม่ได้ ทรงตัวไม่อยู่ ต้องโยกไปมานั่นเอง
- ก้านสมอง
หน้าที่คือ ควบคุมการส่งข้อมูล เหมือนศูนย์รวมคำสั่งการของร่างกาย ที่คอยบัญชาการ หรือควบคุมการส่งข้อมูลไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป จะส่งผลให้คุณภาพการรับรู้และการตอบสนองต่าง ๆ ลดลง
- ก้านสมองส่วนท้ายหรือเมดัลลา
หน้าที่คือ มีอำนาจเหนือจิตใจเกี่ยวกับการควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ ความดัน และการอาเจียน เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป บางคนก็จะรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียนออกมา หากดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจนร่างกายรับไม่ไหวอาจถึงขั้นหมดสติและเสียชีวิตได้เลย
12 วิธีแก้เมาค้าง เร่งด่วน แก้อาการปวดหัวคลื่นไส้หลังปาร์ตี้
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากจนเกินไปแล้ว ต้องจำไว้ว่าตื่นมาในตอนเช้าจะต้องเกิดอาการเมาค้างอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ควรรู้วิธีแก้อาการเมาค้างแบบเร่งด่วน ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ถึงจะหายขาดจากอาการนี้ได้ ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้แล้ว เหล่าสายปาร์ตี้ทั้งหลายตามมาดูกันด่วน ๆ ค่ะ
1. ดื่มน้ำเปล่าตาม 1-2 แก้ว ทุกชั่วโมง
การดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ช่วยขับสารพิษของแอลกอฮอล์ในร่างกายในรูปแบบของปัสสาวะได้ดีที่สุด นอกจากนั้นยังช่วยเจือจางแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือดได้ รวมถึงช่วยสร้างความสดชื่นให้กับร่างกาย และทำให้หายอาการกระหายน้ำ ที่สำคัญไปกว่านั้น ยังช่วยควบคุมความดันโลหิต ควบคุมอุณหภูมิ ทำให้สามารถแก้เมาค้างได้ดีนั่นเอง
2. ดื่มน้ำขิง น้ำผึ้งผสมน้ำอุ่น น้ำผึ้งมะนาว น้ำมะพร้าว หรือ น้ำใบโหระพา
เครื่องดื่มเหล่านี้สามารถช่วยแก้เมาค้างได้เป็นอย่างดี มีสรรพคุณช่วยแก้แฮงค์ ช่วยลดสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายได้ดี ซึ่ง อย่างน้ำขิง มีฤทธิ์เผ็ดร้อน ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการปวดหัว ส่วน น้ำมะนาว ก็มีรสชาติหวาน กลิ่นหอม ดื่มง่าย ช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น ส่วน น้ำมะพร้าว นั้นมีโพแทสเซียมสูง นับว่าเป็นเครื่องดื่มแก้เมาค้างที่จะช่วยเพิ่มเกลือแร่ ลดการขาดน้ำ จนเป็นแหล่งสารอาหารหลักที่จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและรู้สึกดีขึ้นได้ และสุดท้าย น้ำใบโหระพา จะช่วยลดอาการคลื่นไส้ เวียนหัวได้ แต่หากรู้สึกว่าดื่มยากก็อาจจะเน้นกินใบโหระพาเป็นเครื่องเคียงหรือผักในมื้อต่าง ๆ แทนได้
3. กินผลไม้
ผลไม้มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ให้คุณค่าทางสารอาหารและวิตามินชนิดต่าง ๆ สูง โดยเฉพาะกล้วย ที่ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำในร่างกาย และเคลือบกระเพาะไปในตัว ทำให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์ได้น้อย และขับออกมาได้เร็วยิ่งขึ้นรวมถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รีที่ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการคลื่นไส้ ตลอดจนแก้อาการเมาค้างที่ปวดหัวได้
4. ดื่มเครื่องดื่มวิตามิน หรือดื่มน้ำเกลือแร่
เครื่องดื่มวิตามินมีส่วนผสมของวิตามินบี วิตามินซี และวิตามินดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย สร้างความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และลดอาการปวดหัวได้ ซึ่งเป็นตัวช่วยอย่างดีในการแก้เมาค้าง และยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ส่วน น้ำเกลือแร่ เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำไปมาก ควรมีน้ำเกลือแร่ ชนิดละลายน้ำไว้เป็นตัวช่วยฟื้นฟูอาการขาดน้ำ และควรติดตัวไว้จิบทั้งวันเพื่อแก้อาการเมาค้าง เพื่อเติมน้ำให้ร่างกายอย่างต่อเนื่อง และทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
5. ดื่มนมช็อกโกแลต หรือน้ำอัดลม
ในช็อกโกแลตอุดมไปด้วยวิตามิน สารอาหาร คาเฟอีน และสารให้ความหวานที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่น และกระปี้กระเปร่าให้กับร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย และเป็นวิธีแก้เมาค้าง ช่วยลดอาการปวดหัวได้อย่างเร่งด่วน ส่วน น้ำอัดลม ช่วยลดอาการปวดหัวได้เป็นอย่างดี เพราะน้ำอัดลมทำให้สารอะซิทัลดีไฮด์และเอทานอลลดลง ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสาเหตุของอาการปวดหัวนั่นเอง
6. กินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต
หลังการดื่มแอลกอฮอล์และปาร์ตี้อย่างหนัก อาจจะเกิดอาการท้องว่างและหิวได้ จึงจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงดังนั้น การกินอาหารแก้เมาค้างในตอนเช้า จำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว, ขนมปัง, ซีเรียล ก็จะช่วยทำให้อิ่มท้อง ช่วยเพิ่มน้ำตาลในเลือด และแก้อาการเมาค้างได้เป็นอย่างดี
7. กินไข่ต้ม หรือกินไข่ลวก
อาหารแก้เมาค้างยอดนิยม จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ไข่ต้ม และไข่ลวก เนื่องจากไข่ 1 ฟอง ให้พลังงานสูงถึง 80 กิโลแคลอรีและให้โปรตีนสูงถึง 7 กรัม ซึ่งเป็นแหล่งของวิตามิน พลังงาน และสารอาหารชั้นเลิศ ซึ่งจะช่วยทำให้อิ่มท้อง ดูดซึมสารพิษออกจากร่างกาย และยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
8. กินซุปหรือข้าวต้มร้อน ๆ
ซุป โจ๊ก หรือข้าวต้มร้อน ๆ นั้น นอกจากจะช่วยให้ร่างกายอิ่มท้อง มีพลังงานแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายสดชื่น ตื่นตัว พร้อมสำหรับการไปทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดวันแล้ว
9. กินยาแก้ปวด หรือยาลดกรด
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก ตื่นมาแล้วมีอาการปวดหัวตุ้บ ๆ สามารถทานยาแก้ปวดหัวประเภทพาราเซตามอลได้ แต่หากดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การทานพาราเซตามอลลดอาการปวดศีรษะอาจทำลายตับอย่างรุนแรงได้ ดังนั้นควรเลือกทานยาแก้ปวดประเภทไอบูโพรเฟนแทนจะดีกว่า แต่ควรทานอาหารก่อนทานยา และไม่ควรทานยาไอบูโพรเฟนบ่อยจนเกินไป รวมไปถึงแอสไพรินด้วย เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
10. ออกกำลังกายหรือคาร์ดิโอเบา ๆ
การออกกำลังกาย ไม่เพียงแค่ช่วยให้สุขภาพดี ยังเป็นหนึ่งในวิธีแก้เมาค้างตอนเช้าได้เป็นอย่างดี โดยการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเล่นโยคะ พิลาทิส หรือการคาร์ดิโอเบา ๆ เพื่อให้ร่างกายขับแอลกอฮอล์ออกมาในรูปแบบของเหงื่อ และช่วยให้ร่างกายตื่นตัว กระปรี้กระเปร่าได้ดีอีกด้วย
11. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ หากดื่มแอลกอฮอล์ หรือปาร์ตี้จนดึก ก็ควรแบ่งเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ โดยนอนอย่างน้อยให้ครบ 8 ชั่วโมง หรือถ้ามีเวลาน้อยก็อาจจะใช้เวลาช่วงพักหรือช่วงที่ว่างงานงีบบ้าง ก็จะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ลดอาการปวดหัว และอาการเมาค้างได้
12. ดื่มชาหรือกาแฟดำ
คาเฟอีนจากชา และกาแฟนั้นอาจไม่ได้มีฤทธิ์ลดอาการเมาค้างได้โดยตรง แต่มันเป็นสารกระตุ้นประสาท ซึ่งอาจจะช่วยลดอาการเวียนศรีษะ มึนหัว และอ่อนเพลียได้
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการเมาค้าง
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการเมาค้าง คือก่อนดื่มแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ควรหลีกเลี่ยง และปฏิบัติ ดังนี้
- ควรหาอะไรรับประทาน พวกของทานเล่นหรืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันรองท้องก่อน จะช่วยให้ร่างกายชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์ได้มากขึ้น รวมทั้งดื่มน้ำเปล่าระหว่างดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ตอนท้องว่าง
- จำกัดปริมาณการดื่ม ไม่ควรดื่มเยอะเกินที่ร่างกายจะรับได้ รวมถึงผู้ที่ดื่มเป็นประจำทุกสัปดาห์ควรรักษาระดับแอลกอฮอล์ไม่ให้สูงเกินไป โดยเฉลี่ยรวมกันแล้วไม่เกิน 14 แก้ว (Units) ต่อหนึ่งสัปดาห์ ทั้งนี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิดก็มีปริมาณต่อหน่วยบริโภคที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้น ผู้ที่ต้องการลดปริมาณแอลกอฮอล์ ควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์สัปดาห์ละ 3-4 วัน เพื่อลดปริมาณแอลกอฮอล์ที่สะสมอยู่ในร่างกาย
- ดื่มให้ช้าลง โดยดื่มเพียงหนึ่งแก้วต่อหนึ่งชั่วโมง หรือในปริมาณที่น้อยกว่านั้นในแต่ละชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีเข้ม โดยเลือกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสีใสแทน เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีเข้มที่มีส่วนผสมของคอนจีเนอร์มากกว่า ซึ่งส่งผลให้ผู้ดื่มเกิดอาการเมาค้างอย่างรุนแรงได้
- ดื่มน้ำเปล่าหนึ่งแก้วทุกครั้งหลังดื่มแอลกอฮอล์หนึ่งอึก หรือจะผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับเครื่องดื่มอื่น ๆ ก็จะช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ไห้น้อยลง ทั้งนี้ น้ำเปล่าจะช่วยให้ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิดภาวะขาดน้ำ ที่จะส่งผลให้เกิดอาการเมาค้างนั่นเอง
- รับประทานสารสกัดจากกระบองเพชรพริกคลีแพร์ (Prickly Pear) ในปริมาณ 1600 IU ก่อนการดื่มแอลกอฮอล์ 5 ชั่วโมง จะช่วยบรรเทาอาการเมาค้างให้ทุเลาได้ โดยสารสกัดนี้มีโปรตีนที่ช่วยยับยั้งอาการอักเสบจากฤทธิ์แอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่ระหว่างดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้นอนไม่หลับ นอกจากนั้นการสูบบุหรี่ยังทำให้อาการเมาค้างแย่ลงอีกด้วย
สิ่งที่ไม่ควรทำหลังดื่มแอลกอฮอล์
- ห้ามหลับยาว หลังดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าคุณเผลอหลับยาวหลังดื่มหนักใหม่ ๆ เมื่อตื่นนอนตอนเช้าอาการเมาค้าง ปวดหัว มึนงงมาแน่นอน
- ห้ามอาบน้ำทันที หลังจากดื่มแอลกอฮอล์หนัก ๆ แล้วกลับมาบ้าน ไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะจะทำให้อาการเมาหนักกว่าเดิม ควรรอให้ปริมาณแอลกอฮอล์ลดลง โดยการดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ ก่อน แล้วจึงค่อยอาบน้ำ
- ห้ามเป่าพัดลม แอลกอฮอล์อาจทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบจนต้องการลมเย็น ๆ มาเป่าเพื่อให้หายร้อน ซึ่งการเป่าพัดลม หลังการดื่มแอลกอฮอล์หนัก ๆ มา จะทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานความร้อนเร็วขึ้น จนส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ และยังเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดสมองแตกได้ด้วยนะ
- ห้ามกินยาบรรเทาอาการ การกินยาบรรเทาอาการปวดศีรษะ ในขณะที่ร่างกายยังมีปริมาณแอลกอฮอล์สะสมอยู่มาก เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะเมื่อยาบรรเทาอาการปวดผสมเข้ากับแอลกอฮอล์ จะส่งผลอันตรายต่อตับได้
สรุป การแก้เมาค้าง เร่งด่วน แก้อาการปวดหัว คลื่นไส้หลังปาร์ตี้
หลังจากปาร์ตี้ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบจัดหนักมา เมื่อรู้ว่าพรุ่งนี้เช้าตื่นมาต้องเกิดอาการเมาค้างอย่างแน่นอน หนุ่ม ๆ สาว ๆ ทั้งหลายนำวิธีแก้เมาค้างทั้ง 12 วิธีนี้ไปทำตาม เชื่อว่าอาการเมาค้างจะดีขึ้น อาการมึนหัว ปวดศีรษะยังไม่มากวนใจ และสภาพร่างกายจะกลับมาเป็นปกติได้โดยเร็ว ไม่ต้องทนแบกร่างคล้ายซอมบี้ไปทำงานยามเช้าอีกต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Ajmera R. (2023, February 16). The 6 Best Ways to Prevent (and Cure) a Hangover. Healthline. https://www.healthline.com/nutrition/best-hangover-cures
Barrie L. (2023, February 10). 9 Scientific Fixes to Recover From a Hangover. Everyday Health. https://www.everydayhealth.com/mens-health-pictures/the-perpetual-search-for-a-hangover-remedy.aspx
Harvard Health Publishing. (2021, November 16). 7 steps to cure your hangover. Harvard Medical School. https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/7-steps-to-cure-your-hangover-and-ginkgo-biloba-whats-the-verdict